ได้รับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพและโลงพระราชทาน ภรรยาเผย เพิ่งแต่งงานได้เพียงปีกว่าๆ และจ่าเจ เป็นคนรักชาติมาก
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 จ่าสิบเอก วุธจักร โททอง หรือ “จ่าเจ” สังกัดกองพันทหารม้าที่ 25 กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ ได้ถึงแก่อนิจกรรมด้วยอาการโรคประจำตัวกำเริบ หลังปฏิบัติภารกิจสนับสนุนการป้องกันชายแดนไทย–กัมพูชา ในพื้นที่จังหวัดสระแก้วมาอย่างต่อเนื่องด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเท
ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 จ่าเจมีอาการทรุดกะทันหันและถูกส่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลพื้นที่ ก่อนถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรุงเทพมหานคร แพทย์ได้ทำการรักษาอย่างใกล้ชิดเต็มความสามารถ แต่ด้วยอาการที่ทรุดหนักลงเรื่อย ๆ จ่าเจได้เสียชีวิตอย่างสงบในเวลาต่อมา
วันที่ 12 ธันวาคม 2568 หน่วยทหารได้อำนวยการเคลื่อนย้ายร่างของจ่าเจกลับมายังบ้านเกิด ณ บ้านกระโพธิ์ ตำบลตูม อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ท่ามกลางความอาลัยของครอบครัว เพื่อนทหาร และประชาชนในพื้นที่
นางสาวนันท์สินี โททอง อายุ 30 ปี ภรรยาของจ่าเจ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตนกับจ่าเจคบหาดูใจกันมาประมาณ 10 ปี และแต่งงานกันได้ราว 1 ปีเศษ ก่อนที่จ่าเจจะเสียชีวิต เขามีอาการโรคประจำตัวกำเริบและติดเชื้อในกระแสเลือด แม้แพทย์และเจ้าหน้าที่พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง แต่อาการก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว จนจ่าเจจากไปในที่สุด
เธอกล่าวว่า จ่าเจเป็นคนรักอาชีพทหารอย่างยิ่ง เป็นคนมุ่งมั่น ชอบงานลุยสนาม และภูมิใจในการออกปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องประเทศชาติ ซึ่งตั้งแต่เกิดสถานการณ์ตึงเครียดตามแนวชายแดนที่ผ่านมา ตนเองก็อดหวั่นกลัวไม่ได้ว่าจะเกิดเหตุร้ายกับเขา และท้ายที่สุดก็เกิดขึ้นจริงตามที่กังวล
นางสาวนันท์สินี กล่าวต่อว่า ตลอดช่วงที่จ่าเจรักษาตัวในโรงพยาบาล ตนไปดูแลและเฝ้าอยู่ทุกวัน คอยให้กำลังใจจนวินาทีสุดท้ายต่อหน้าต่อตา ทั้งคู่มีความฝันร่วมกันว่า หลังเหตุการณ์ชายแดนสงบลง ปีหน้าอยากจะมีลูกด้วยกัน และตั้งใจจะกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันที่บ้าน พร้อมวางแผนเปิดร้านขายของเล็ก ๆ เป็นกิจการร่วมกัน///
จิรภัทร หมายสุข ศรีสะเกษ