ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ศรีสะเกษ คลิปสุดสะเทือนใจ พี่วัย 15 เตะน้องวัย 10 กลางหลังจนล้ม อ้าง “สั่งสอนเพราะชอบขโมย”ยันไม่ได้หลอนยา




ศรีสะเกษ  คลิปสุดสะเทือนใจ พี่วัย 15 เตะน้องวัย 10 กลางหลังจนล้ม อ้าง “สั่งสอนเพราะชอบขโมย”ยันไม่ได้หลอนยา 

คลิปวิดีโอเด็กชายถูกพี่ทำร้ายร่างกายกลางบ้านในศรีสะเกษ สร้างความสะเทือนใจทั่วโลกออนไลน์
ตรวจสอบพบเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน พี่วัย 15 อ้างทำไปเพราะน้องชอบลักขโมย ยันไม่ได้หลอนยา ยายร่ำไห้เผยไม่เคยเห็นคลิปมาก่อน ขณะบ้านพักเด็กฯ และพม. เข้าช่วยเหลือ เยียวยาและเฝ้าระวังต่อเนื่อง

วันที่ 31 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์โพสต์คลิปวิดีโอความยาวประมาณ 30 วินาที เป็นภาพเด็กชายคนหนึ่งสวมชุดสีน้ำตาลคล้ายเครื่องแบบลูกเสือ นั่งยองๆอยู่กับพื้นในอาการหวาดกลัวและร้องไห้ ขณะมีชายคนหนึ่งเดินเข้ามา ก่อนจะใช้เท้าเตะเข้าที่กลางหลังจนเด็กเสียหลักหน้าคะมำ ขณะที่อีกคลิปหนึ่งเป็นเหตุการณ์คล้ายกันในบริเวณเดียวกันคือ ภาพทำร้ายร่างกายเด็กชายคนหนึ่ง โดยการตบตีที่ศีรษะ หลายครั้ง ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้ชมในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก 

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่ 2 ตำบลโนนเพ็ก อำเภอพยุห์ จังหวัดศรีสะเกษ ตามข้อมูลที่ปรากฏในคลิป โดยมี นายสถิตย์ สุวรรณทา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 เป็นผู้นำพาไปยังสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวตั้งอยู่ที่หมู่บ้าน โดยภายหลังนี้ มีผู้อยู่อาศัย ทั้งหมด 7 คน มีนางสุปราณี เข็มสุวรรณ อายุ 62 ปี ประกอบอาชีพทำอาหารกลางวันส่งโรงเรียนในหมู่บ้าน  เป็นเสาหลักในการหารายได้เลี้ยงดู ลูกสาว 1 คน หลานชาย 4 คน หลานสาว 1 คน และเหลนชาย 1 คน โดยผู้ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายเด็กชายในคลิปวีดีโอ ที่ปรากฏว่าในโลกออนไลน์ คือ  เด็กชาย เอ นามสมมุติ  (ด.ช. ธีระเทพ หงส์รุจิโก)  อายุ 15 ปีส่วนผู้ที่ถูกทำร้าย คือ เด็กชาย บี นามสมมุติ (ด.ช. อัครเดช หงส์รุจิโก) อายุ 10 ปี 

เด็กชาย เอ วัย 15 ปี ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นมาหลายเดือนแล้ว ซึ่งเป็นคลิปวีดีโอที่ตนบันทึกไว้เองเพื่อส่งให้ พี่ชายอีกคนหนึ่งดู โดยสาเหตุที่ต้องทำการทำร้ายร่างกาย เด็กชาย บี นั้นมาจากที่ เด็กชายบี มีนิสัย ชอบลักขโมยสิ่งของในบ้าน ทั้งลักขโมยสิ่งของในบ้านเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงอยู่หลาย ครั้ง จับได้ก็บ่อยครั้ง และมีการตักเตือนอยู่หลายที แต่ก็ไม่ยอมฟัง  และยังมีพฤติกรรมเช่นเดิม ล่าสุดได้มีการขโมยพระไปขาย  อีกทั้งยังมีพฤติกรรมเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่ดี หลายอย่าง ซึ่งตนยอมรับว่า ในส่วนของตนก็ไม่ใช่คนที่ดี แต่ก็ไม่อยากให้น้องต้องมาเดินตามทางที่ผิดพลาด จึงได้ตัดสินใจทำร้ายร่างกาย เพื่อเป็นการสั่งสอนให้น้องได้รู้สำนึก แต่ไม่ได้ทำไปเพราะมีอาการหลอนยา หรือเสพยาจนเกิดอาการหลอนตามที่มีการกล่าวหาแต่อย่างใด แต่ที่ทำไปเพียงเพื่อต้องการให้น้องแก้ไข และกลับตัวเป็นคนดีเท่านั้นเอง ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่กระทำลงไป

เด็กชาย บี อายุ 10 ปี ผู้ถูกทำร้ายร่างกาย เปิดเผยว่า ตนยอมรับว่า ลักขโมยสิ่งของจริง ส่วนใหญ่สิ่งของที่ได้ไป ก็คือพระเครื่อง และเอานำไปขายโดยจะนำเงินจากการที่นำของไปขายได้ ไปซื้อขนมและของเล่น สาเหตุที่ตนต้องขโมยของเพราะตนไม่มีเงิน และอยากได้สิ่งของต่างๆ ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในคลิป เกิดขึ้นมานานแล้ว  ปัจจุบัน ตนเลิกกระทำแบบนี้แล้ว และรู้สึกเสียใจมากและสำนึกผิด ที่กระทำแบบนั้นลงไป ตอนนี้ตนเลิกพฤติกรรมแบบนั้นไปแล้ว 

นางสุปราณี เข็มสุวรรณ อายุ 62 ปี  ยายที่ต้องดูแลทุกคนภายในบ้าน เปิดเผยด้วยน้ำตาคลอ ว่า ตนไม่เคยเห็นคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก่อน จนกระทั่งได้มาเห็น ถึงกับมีอาการช็อคและเสียใจมาก ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นที่บ้านของตน และเกิดกับลูกหลานของตน ยอมรับว่าเสียใจเป็นอย่างมาก  และตอนนี้ได้ทำการปรับความเข้าใจกันแล้ว ส่วนปัญหาเรื่องของยาเสพติดตอนนี้ หลานของตนที่ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายน้อง ก็ได้เลิกไปแล้ว อยู่ระหว่างบำบัดยาเสพติด ซึ่งบำบัดมาได้กว่า  1 เดือนแล้ว ไม่ใช่สาเหตุเพราะหลอนยาและทำร้ายร่างกายน้อง แต่ที่ต้องทำไปเพราะต้องการสั่งสอนให้น้องรู้สึกผิดในสิ่งที่กระทำลงไปเท่านั้นเอง 

เบื้องต้น บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว กรณีเด็กผู้ถูกกระทำ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดศรีสะเกษ เสนอทางเลือกให้แก่เด็กและครอบครัวในการย้ายสถานศึกษา เข้ารับการศึกษาต่อที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 29 จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อนำเด็กออกจากสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงที่เป็นอันตรายแก่เด็ก ครอบครัวยินยอม แต่เด็กปฏิเสธการย้ายโรงเรียน เนื่องจากเด็กยังอยากศึกษาเล่าเรียนต่อเนื่องในโรงเรียนบ้านโนนเพ็ก จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จึงจะขอตัดสินใจอีกครั้ง ทั้งนี้เนื่องจากเด็กยังไม่สมัครใจในการเข้าเรียนที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 29 จังหวัดศรีสะเกษ จึงไม่อาจบังคับเด็กได้ ตามเงื่อนไขของโรงเรียนราชประชาฯ กรณีเด็กชายผู้กระทำ เกี่ยวข้องเป็นพี่ชาย ตำรวจภูธรพยุห์รับทราบถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น และพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษได้ว่ากล่าวตักเตือน เด็กชายผู้กระทำผิด ยอมรับถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่ากระทำเกินกว่าเหตุ และชี้แจงพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ให้แก่ผู้ปกครองซึ่งเป็นยาย และมารดาได้รับทราบ ตามระเบียบ เพื่อให้ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ร่วมกับหน่วยงานภาคี เครือข่ายในพื้นที่ ติดตามดูแลเด็ก ที่ประสบปัญหาทางสังคมในเหตุการณ์ดังกล่าว เฝ้าระวังเป็นระยะ เพื่อการช่วยเหลือเด็กให้ได้รับความปลอดภัย และดำเนินชีวิตได้เป็นปกติ ต่อไป/////////

จิรภัทร หมายสุข ศรีสะเกษ 



โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชาวตำบลนิคมสงเคราะห์รวมตัวขับไล่นายกฯ

ชาวตำบลนิคมสงเคราะห์รวมตัวขับไล่นายกฯ วันที่ 9 ตุลาคม 2566 เวลา09.00น. ที่องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ชาวตำบลนิคมสงเคราะห์กว่า 50 คน รวมตัวกันที่อาคารผู้บริหาร เพื่อต้องการคำตอบในเรื่องที่ นายก อบต. ปลดรองนายก อบต. 2 คน ออกจากตำแหน่ง ซึ่งตัวแทนชาวนิคมสงเคราะห์ได้เข้าไปพูดคุยกับนายก อบต. ตัวแทนชาว ต นิคมสงเคราะห์ ได้สอบถามนายกว่าเหตุใดจึงได้ปลดรองนายกฯทั้ง 2 ออกแบบกะทันหันซึ่งที่พวกตนได้ลงคะแนนเลือกนายกฯนั้น เพราะนายกสัญญาว่าจะให้รองฯทั้ง 2 นั้นเป็นรองนายกฯจนครบ 4 ปี แต่ยังไม่ทันถึง 2 ปีนายกฯก็ปลดออกเสียแล้ว พวกตนจึงต้องการคำตอบ ซึ่งนายกฯ แจ้งทางตัวแทนชาวบ้านว่า เป็นอำนาจของนายกฯที่จะสามารถปลดรองฯออกได้ และทางรองนายกนั้นตนขอใช้ภาษาอิสานว่ารองนั้น'ล่วง' ซึ่งทางตัวแทนชาวบ้านได้ถามนายกว่า ล่วง แบบไหน นายกก็ไม่ยอมตอบพร้อมทั้งจะให้เลขาเข้ามาคุยแทน ซึ่งทำให้ตัวแทนฯไม่พอใจเป็นอย่างมาก พร้อมยื่นคำขาดว่าจะคุยกับนายกคนเดียวเท่านั้นไม่คุยกับผู้อื่น จนทำให้นายกรุกเดินออกจากห้องทำงานไป  ทำให้ชาว ต.นิคมสงเคราะห์ ได้ตะโกนออกมาว่า นายกออกไปๆ พร้อมทั้ง...

สรุปผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีในเขตอำเภอเมืองครับ (คะแนนไม่เป็นทางการ)

สรุปผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีในเขตอำเภอเมืองครับ (คะแนนไม่เป็นทางการ)

นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังสะพุง เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อติดตามความก้าวหน้าเเละเสริมพลังการขับเคลื่อนสุขภาพจิตชุมชนท้องถิ่น(เสมาโมเดล)

วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เวลา13.00 น. นายประเวช บุญหนัก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังสะพุง เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อติดตามความก้าวหน้า เเละเสริมพลังการขับเคลื่อนสุขภาพจิตชุมชนท้องถิ่น(เสมาโมเดล) กล่าวรายงาน/นำเสนอโดยนายพรเทพ รัตนเรืองศรี หัวหน้าโครงการฯ นายยุทธ บุญเกษ ผู้ประสานงานโครงการ โดยมีนายปองพล ชุษณะโชติ กองส่งเสริมพัฒนาสุขภาพจิต  กรมสุขภาพจิตที่ 8 พร้อมทีมติดตามประเมินรับฟังการนำเสนอพร้อมชักถาม ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นักส่งเสริมสุขภาพจิต(นสช.)คุณหมอเกศรา โกมาสถิตผู้แทนโรงพยาบาลวังสะพุง ผอ.กองสาธารณสุขเทศบาลเมืองวังสะพุง ผอ.ศักดา พุทชาคำ ที่ปรึกษา ประธานชุมชน/ อสม.นายกฤษณะเดช โสสุทธิเลขาฯโรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลเมืองวังสะพุงหลังประชุมเสร็จได้ลงพื้นที่เยี่ยมคุณตาเหลา บุภาที (อายุ94ปี) หมู่14บ้านหนองบัวทอง ณ ห้องประชุมเทศบาลเมืองวังสะพุง ตำบลวังสะพุง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย